ประกาศจากสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานวิสุงคามสีมา ในเขตพื้นที่พระอุโบสถหลังใหม่ วัดขุนอินทประมูล อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง



เมื่อวันจันทร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ.2556 เวลา 10.30 น.

          นายอภิรศักดิ์ พฤกษชาติ นายอำเภอโพธิ์ทอง ได้ลงปักหมุดเขตวิสุงคามสีมา ในเขตพื้นที่พระอุโบสถหลังใหม่ วัดขุนอินทประมูล อ.โพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง

          พระครูวิเศษชัยวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดชัยมงคล รักษาการเจ้าอาวาสวัดขุนอินทประมูล กล่าวว่าวิสุงคามสีมา แปลว่า เขตแดนส่วนหนึ่งจากแดนบ้าน คือที่ดินที่แยกต่างหากจากที่ดินของบ้านเมือง เป็นเขตที่พระเจ้าแผ่นดินพระราชทานแก่พระสงฆ์เป็นการเฉพาะเพื่อใช้สร้างอุโบสถโดยประกาศเป็นพระบรมราชโองการ โดยการที่จะได้เป็นอุโบสถถูกต้องตามพระวินัยนั้นจะต้องได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาก่อน แล้วพระสงฆ์ประชุมพร้อมกันสวดถอนพื้นที่ทั้งหมดในเขตสีมานั้นเพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่เป็นสีมาเก่า เรียกว่าถอนสีมา หลังจากนั้นจึงสวดประกาศให้เป็นพื้นที่นั้นเป็นสีมา เรียกว่า ผูกสีมา ทำดังนี้จึงจะเป็นสีมาหรือเป็นอุโบสถถูกต้องตามพระวินัย สำหรับเขตวิสุงคามสีมาของพระอุโบสถของวัดขุนอินทประมูล ได้กำหนดเขต กว้าง 60 เมตร ยาว 100 เมตร โดยมีพื้นที่ีรวม 6,000 ตารางเมตร






          พระอุโบสถหลังใหม่นี้ เป็นพระอุโบสถแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ที่มีทั้งลิฟต์และบันไดเลื่อน ไว้คอยบริการผู้ที่มีจิตศรัทธา โดยใช้งบประมาณไปแล้วทั้งสิ้น 120 ล้านบาท สำหรับเหตุผลที่สร้างพระอุโบสถที่มีทั้งลิฟต์ทั้งบันไดเลื่อนนี้ ก็เพราะว่าเนื่องจากทุกวันนี้มีญาติโยมที่สูงอายุมาเข้าวัดทำบุญกันเป็นจำนวนมาก ทางวัดจึงคิดว่าการที่สร้างพระอุโบสถที่มีลิฟต์และบันไดเลื่อนนี้ จะได้ไว้คอยอำนวยความสะดวกให้แก่ญาติโยมผู้สูงอายุทั้งหลายที่มาทำบุญ รวมทั้งพระสงฆ์ที่สูงอายุจะได้ไม่ลำบากในการเดินขึ้นเดินลง

           พระอุโบสถหลังนี้ มีทั้งหมด 3 ชั้น โดยเฉพาะชั้นที่ 2 จะเป็นบริเวณประกอบพิธีทางศาสนา โดยมีองค์พระประธาน คือ พระพุทธมงคลจินดาพลบพิธ เป็นพระพุทธรูปที่จำลององค์พระพักตร์ของ องค์พระพุทธไสยาสน์ขุนอินทประมูล ซึ่งเป็นพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่และมีอายุมากที่สุดในประเทศไทย โดยภายในชั้น 2 นี้ ปัจจุบันกำลังตกแต่งและเขียนจิตรกรรมฝาผนังซึ่งยังไม่แล้วเสร็จคาดว่า ต้นปี 2557 จะเสร็จสมบูรณ์