กรมโรงงงานอุตสาหกรรม ลงพื้นที่ตรวจสอบ โรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดอ่างทอง




เมื่อวันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556 เวลา 11.30

         นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ จากกรมโรงงานอุตสาหรรม ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมในจังหวัดอ่างทอง หลังจากได้รับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน ณ โรงงานของ บริษัท ไทยเรยอน จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยคาร์บอนแบล็ค จำกัด (มหาชน) จังหวัดอ่างทอง

         นายสมคิด ตัณฑศรีสุข อุตสาหกรรมจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า จากการที่กรมโรงงานอุตสากรรม ลงมาตรวจสอบ โรงงานของจังหวัดอ่างทอง ทั้งบริษัท ไทยเรยอน จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยคาร์บอนแบล็ค จำกัด (มหาชน) เนื่องจากว่าได้รับรองเรียนจากประชาชนที่อาศัยอยู่รอบๆทั้ง 2 โรงงาน กับ 2 ปัญหาที่เกิดขึ้น คือ ปัญหากลิ่นจากโรงงานของบริษัท ไทยเรยอน และปัญหาผงฝุ่นคาร์บอน ที่กระจายไปทั่วบริเวณ จาก บริษัท ไทยคาร์บอนแบร็ค อีกทั้งปัญหาการปล่อยน้ำเสียลงในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งพบว่า บริษัท ไทยเรยอน ยังพบบางจุดของระบบที่ต้องปรับปรุงโดยเฉพาะ การปล่อยก๊าชไฮโดรเจนซัลไฟด์ หรือแก๊สไข่เน่า จุดที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมสนใจ คือ ระบบที่ปล่อยก๊าชไฮโดรเจนซัลไฟด์ พบว่าประสิทธิภาพนั้นไม่สมบูรณ์ เนื่องจากว่าได้ติดตั้งมานาน กว่า 30 กว่าปี อาจจะทำให้พบข้อผิดพลาดบางประการ ซึ่งกรมโรงงานอุสาหกรรม แนะนำให้ทางบริษัทไทเรยอน ให้เพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดกลิ่นให้ดีกว่านี้ โดยกำชับให้ทางบริษัทติดตั้งเครื่องมือที่สามารถวัดกลิ่นของก๊าชไฮโดรเจนซัลไฟด์ หรือแก๊สไข่เน่า ได้ตลอดเวลา เนื่องจากว่าวันที่มาตรวจ ไม่พบค่าเกินกว่าที่กำหนด สำหรับเรื่องปัญหาน้ำเสีย และเรื่องร้องเรียนจากประชาชนว่า ทำให้ปลาตาย ทางกรมโรงงานอุสาหกรรม ตรวจสอบน้ำ พบว่าไม่พบค่าที่เกินกว่าค่ามาตรฐาน










           สำหรับ บริษัท ไทยคาร์บอนแบล็ค จำกัด (มหาชน) ทางกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้รับเรื่องร้องเรียน เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ที่ผ่านมา จากปัญหา ฝุ่นผงของคาร์บอนกระจายไปทั่ว ส่งผลต่อประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบ ซึ่งทางจังหวัดอ่างทอง ได้มีคำสั่งให้ทางบริษัทปรับปรุงทั้งระบบ ก่อนวันที่ 1 กรกรฏาคม โดยทางบริษัท ไทยคาร์บอนแบล็ค จำกัด (มหาชน) มีโรงงาน อยู่ทั้งหมด 6 ยูนิต โดยกรมโรงงานอุตสาหกรรม ได้กำชับให้ทางบริษัทต้องตรวจสอบทุกยูนิตและทั้งระบบ โดยพบว่าส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นปัญหาด้านเทคนิคของระบบ จึงจำเป็นที่ต้องให้ทางบริษัท ทำแผนระบบฉุกเฉินส่งทางจังหวัดต่อไป หากยังเกิดปัญหาในอนาคต







          ในวันนี้กระทรวงอุตสาหกรรม ได้กำหนดนโยบายหลัก ที่ต้องให้โรงงานอุตสหกรรมทั่วทั้งประเทศ ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และวิถีชีวิตของประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบ กรมโรงงานอุสาหกรรม ได้รับนโยบายดังกล่าว จึงได้จัดทำแผนในการลงพื้นที่ตรวจสอบทุกโรงงานที่มีความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เข้าไปดูแลอย่างจริงจัง ทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม และในด้านเทคนิค โดยในอนาคตจะ ทางกระทรวงอุตสาหกรรมจะมีนโยบายประกาศ จะไม่อนุญาติให้โรงงานที่มีสถานที่ประกอบการอยู่ติดกับแหล่งน้ำ หรือ แม่น้ำ ไม่ให้มีปล่อยน้ำทิ้งลงในแม่น้ำเจ้าพระยาต่อไป เพื่อเป็นการรักษาแหล่งน้ำต่อไป