เมื่อวันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ.2559 เวลา 09.00 น.
นายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง พร้อมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอ่างทอง และสื่อมวลชนจังหวัดอ่างทอง ลงพื้นที่ตรวจสอบเจดีย์บรรจุอฐิ พระราชมนู ณ วัดช้าง ต.บ้านอิฐ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง
นายวีร์รวุทธ์ ปุตระเศรณี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง พร้อมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดอ่างทอง และสื่อมวลชนจังหวัดอ่างทอง ลงพื้นที่ตรวจสอบเจดีย์บรรจุอฐิ พระราชมนู ณ วัดช้าง ต.บ้านอิฐ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง
พระครูสุวัฒน์วรกิจ (สุพจน์ สุวจจโน) เจ้าอาวาสวัดช้าง (ช้างให้) กล่าวว่าเจดีย์บรรจุอฐิ พระราชมนู เป็นเจดีย์รูปทรงกลม (ระฆังคว่ำ)สมัยอยุธยาตอนปลาย บรรจุอัฐิพระราชมนูทหารเอกคู่ใจสมเด็จพระนเรศวร พร้อมด้วยเจดีย์บรรจุอัฐิภรรยาพระราชมนู และวิหารที่พระราชมนูสร้างถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนเรศวร ซึ่งประวัติของพระราชมนู ขุนศึกคู่พระทัยของสมเด็จพระนเรศวรมีการบันทึกไว้ได้น้อยมากในประวัติศาสตร์
วัดช้างให้ สร้างราวปี พ.ศ. 1845 ต่อมาสมัยอยุธยามีการรบที่ทุ่งบางแก้ว พระราชมนู แม่กองระวังหน้า ได้ใช้วัดช้างให้เป็นที่ตั้งทัพทหารหมื่นนาย ออกรบแบบกองโจรกับพระเจ้าเชียงใหม่จนได้รับชัยชนะ สมเด็จพระนเรศวรทรงโปรดให้นำพระราชทรัพย์มาปฎิสังขรณ์วัด พระราชมนู (เพชร) จึงให้นายพลอยครูดาบใช้เรือกระแชงไปขนทองคำและสิ่งของที่จำเป็นจากกรุงศรีอยุธยา พร้อมช่างสิบหมู่มาช่วย
ต่อมาหลังเปลี่ยนแผ่นดิน พระราชมนูได้ลาออกจากตำแหน่งสมุหกลาโหม มาบวชที่วัดช้างให้ และได้สร้างวิหารถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนเรศวร พระราชมนู หรือ หลวงพ่อเพชร ได้จำพรรษาที่วัดช้างให้จนสิ้นอายุขัย ศิษย์และชาวบ้านจึงร่วมกันสร้างเจดีย์บรรจุอัฐิรูปทรงกลม (ระฆังคว่ำ) ของท่านและภรรยา มาจนบัดนี้ โดยในวันที่ 9 ตุลาคมนี้จะมีการสร้างอนุสาวรีย์พระราชมนู เพื่อให้เยาวชนและประชาชนได้รำลึกถึงคุณงามความดีของท่าน
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเจดีย์ซึ่งบรรจุอัฐิของพระราชมนูอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมอย่างมาก ซึ่งทางวัดทำได้แต่เพียงดูแลรักษาไม่ให้ทรุดโทรมไปมากกว่าที่เป็นอยู่เท่านั้น ซึ่งในครั้งนี้ ทางส่วนราชการจังหวัดอ่างทอง จะลงมาประสานให้การช่วยเหลือบูรณะเจดีย์ให้สวยงาม สมกับคุณความดีที่ท่านทำให้กับแผ่นดินต่อไป
ภาพ/ข่าว
#สำนักงานข่าวท้องถิ่นจังหวัดอ่างทอง (AngthongNews)
วัดช้างให้ สร้างราวปี พ.ศ. 1845 ต่อมาสมัยอยุธยามีการรบที่ทุ่งบางแก้ว พระราชมนู แม่กองระวังหน้า ได้ใช้วัดช้างให้เป็นที่ตั้งทัพทหารหมื่นนาย ออกรบแบบกองโจรกับพระเจ้าเชียงใหม่จนได้รับชัยชนะ สมเด็จพระนเรศวรทรงโปรดให้นำพระราชทรัพย์มาปฎิสังขรณ์วัด พระราชมนู (เพชร) จึงให้นายพลอยครูดาบใช้เรือกระแชงไปขนทองคำและสิ่งของที่จำเป็นจากกรุงศรีอยุธยา พร้อมช่างสิบหมู่มาช่วย
ต่อมาหลังเปลี่ยนแผ่นดิน พระราชมนูได้ลาออกจากตำแหน่งสมุหกลาโหม มาบวชที่วัดช้างให้ และได้สร้างวิหารถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนเรศวร พระราชมนู หรือ หลวงพ่อเพชร ได้จำพรรษาที่วัดช้างให้จนสิ้นอายุขัย ศิษย์และชาวบ้านจึงร่วมกันสร้างเจดีย์บรรจุอัฐิรูปทรงกลม (ระฆังคว่ำ) ของท่านและภรรยา มาจนบัดนี้ โดยในวันที่ 9 ตุลาคมนี้จะมีการสร้างอนุสาวรีย์พระราชมนู เพื่อให้เยาวชนและประชาชนได้รำลึกถึงคุณงามความดีของท่าน
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเจดีย์ซึ่งบรรจุอัฐิของพระราชมนูอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมอย่างมาก ซึ่งทางวัดทำได้แต่เพียงดูแลรักษาไม่ให้ทรุดโทรมไปมากกว่าที่เป็นอยู่เท่านั้น ซึ่งในครั้งนี้ ทางส่วนราชการจังหวัดอ่างทอง จะลงมาประสานให้การช่วยเหลือบูรณะเจดีย์ให้สวยงาม สมกับคุณความดีที่ท่านทำให้กับแผ่นดินต่อไป
ภาพ/ข่าว
#สำนักงานข่าวท้องถิ่นจังหวัดอ่างทอง (AngthongNews)