อำเภอไชโย เปิดงาน “เทศกาลกินผัดไทย ไหว้พระสมเด็จเกษไชโย 2568“ ชูไฮไลต์ผัดไทย 108 กระทะ โหมโรงความสนุกก่อนสงกรานต์


เมื่อวันพฤหัสดีที่ 10 เมษายน 2568 เวลา 17.00 น.
ณ วัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย จ.อ่างทอง

นายทัศนัย สุธาพจน์ (รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง) เป็นประธานเปิดงาน "เทศกาลกินผัดไทย ไหว้พระสมเด็จเกษไชโย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568" โดยมี พระวชิรเวที (เจ้าอาวาสวัดไชโยวรวิหาร) รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง นายอำเภอไชโย หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพื้นที่อำเภอไชโย และ ประชาชน เข้าร่วมงาน






นายทศพล ศรีบัวเอี่ยม (นายอำเภอไชโย) กล่าวว่า ผัดไทย ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ของจังหวัดอ่างทอง โดยเฉพาะผัดไทยของวัดไชโย วัดที่มีชื่อเสียงของจังหวัดอ่างทองที่ทุกคนต่างรู้จักกันดีจาก “พระสมเด็จเกษไชโย” จึงเป็นที่มาของการจัดงานเทศกาลกินผัดไทย ไหว้พระสมเด็จเกษไชโย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ระหว่างวันที่ 10 - 12 เมษายนนี้ ไฮไลต์ของงานในปีนี้มีทั้งการผัดไทยกระทะยักษ์, ผัดไทย 108 กระทะ, การแสดงตำนานผัดไทยไชโย อ่างทอง เดอะ มิวสิคอล รวมถึงการจำหน่ายสินค้าประจำอำเภอไชโย เช่น สมุนไพรแปรรูปแช่อิ่ม และอาหารต่าง ๆ 






นอกจากนี้ ในพิธีเปิดงานวันที่ 10 เมษายนนี้ ยังมีผัดไทยฟรีให้นักท่องเที่ยวได้มาร่วมชิม และร่วมสักการะพระคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดอ่างทองด้วย ถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ให้กับประชาชนและพี่น้องชาวจังหวัดอ่างทอง






เทศกาลกินผัดไทย ไหว้พระสมเด็จเกษไชโยฯ คาดว่าจะเป็นหนึ่งในเมกะโปรเจ็กต์ด้าน Food Festival ที่จะช่วยผลักดันให้จังหวัดอ่างทอง เป็นจุดมุ่งหมายด้านการท่องเที่ยวผ่านเทศกาลอาหาร โดยเฉพาะ ผัดไทย ถือเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างสูงติดอันดับ 1 ใน 3 ในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่จังหวัดอ่างทองต้องการส่งเสริมให้เป็นอาหารอัตลักษณ์ของจังหวัดในอนาคตด้วย









นอกจากกิจกรรมผัดไทย 108 กระทะแล้ว ยังมีการแต่งชุดแฟนซีร่วมผัดไทยที่น่าสนุกสนาน กิจกรรมแข่งกินผัดไทยชิงเงินรางวัล ถือเป็นงานเรียกน้ำย่อยก่อนเข้าสู่ช่ววเทศกาลงานมหาสงกรานต์ เฟสติวัล 2024 ถนนข้าวสุก @อ่างทอง อำเภอวิเศษชัยชาญ เป็นการบูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วนเพื่อจังหวัดอ่างทอง ตามแนวทาง "ONE PLUS ANGTHONG“ ของผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง พร้อมเน้นการสื่อสารประชาสัมพันธ์ไปยังต่างประเทศ เพื่อให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยวระยะยาวของจังหวัดอ่างทองด้วย












ขอขอบคุณเนื้อข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอ่างทอง

ภาพข่าว
สำนักงานข่าวท้องถิ่นจังหวัดอ่างทอง (AngthongNews)