เทศบาลตำบลบางจัก และพนักงานตำบลบางจักร่วมกันลอยกระทงยักษ์และทอดผ้าป่าสามัคคีทางน้ำ วันเพ็ญเดือนสิบสองประจำปี 2564


เมื่อวันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เวลา 09.00 น.

นายชวลิต วิเศษสิทธิกุล นายกเทศมนตรีตำบลบางจัก พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาลตำบลบางจัก และพนักงานตำบลบางจักร่วมกันลอยกระทงยักษ์ บริเวณท่าน้ำของวัดสี่ร้อย หลังพิธีวางพวงมาลารำลึก ขุนรองปลัดชูและกองอาทมาต 400 คน วีรชนคนกล้าบ้านสี่ร้อย

 

และเมื่อเวลา 14.00 น.นายกเทศมนตรีบางจักพร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สมาชิกฯ ข้าราชการ กำนันผู้ใหญ่บ้านและพี่น้องประชาชนได้พร้อมกันที่ศูนย์สภากาชาดไทยเวชพาห์น์เฉลิมพระเกียรติ หมู่ที่ 5 ต.บางจัก อ.วิเศษชัยชาญ เพื่อจัดรูปขบวนทางน้ำโดยใช้เรือทอดผ้าป่าทางน้ำโดยเริ่มต้น

วัดที่ 1 ได้แก่วัดบางจัก ตำบลบางจัก

วัดที่ 2 คือวัดไทรยืด ตำบลสี่ร้อย

วัดที่ 3 วัดน้ำพุ ตำบลสี่ร้อย

วัดที่ 4 คือวัดสี่ร้อย ตำบลสี่ร้อย

วัดที่ 5 เป็นวัดสุดท้ายของการทอดผ้าป่าสามัคคีทางน้ำคือวัดทำนบ

 


ซึ่งอยู่ตำบลสี่ร้อย อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง ครบ 5 วัดดังกล่าว นายชาวลิต วิเศษสิทธิกุล นายกเทศมนตรีตำบลบางจัก กล่าวว่า วิถีชีวิตของผู้คนในสมัยก่อนนั้นจะผูกพันกับแม่น้ำ และโดยเฉพาะในจังหวัดอ่างทองมีแม่น้ำสายหลักคือแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำน้อยซึ่งเปรียบเสมือนแม่น้ำแห่งชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการทำการเกษตร หรือการขนส่ง ก็มักใช้วิถีชีวิตผูกพันกับแม่น้ำมาตลอด



 เนื่องจากวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนที่อาศัยก็จะปลูกบ้านเรียงรายติดกับแม่น้ำเป็นส่วนใหญ่ด้านคมนาคม สมัยนั้นก็จะเป็นทางเรือเสียส่วนใหญ่ ด้วยความผูกพันมีหลายท่านมักกล่าวว่า “แม่น้ำคือชีวิต” หรือสายเลือดที่หล่อเลี้ยงผู้คนมาแต่ก่อน แม้แต่วัดวาอาราม ก็มักจะพบเห็นว่าอยู่ติดกับริมแม่น้ำเป็นจำนวนมาก ฉะนั้นกิจกรรมและวัฒนธรรมต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะเริ่มต้นที่แม่น้ำ



 




ที่ผ่านมาทางสำนักงานทศบาลบางจักเล็งเห็นถึงความสำคัญของแม่น้ำน้อยแห่งนี้ ได้ร่วมกันรณรงค์ ดูแลและรักษาอีกทั้งยังได้ปรับปรุงส่งเสริมการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับน้ำ และก็เป็นประจำทุกปี ที่ทางเทศบาลฯ จะร่วมกับผู้นำท้องที่ กำนันผู้ใหญ่บ้านพร้อมทั้งพี่น้องประชาชนในพื้นที่จัดกิจกรรมในวันสำคัญทางประเพณีและประเพณีลอยกระทงในครั้งนี้ได้จัดพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีวัดที่อยู่บริเวณริมแม่น้ำน้อยรวม 5 วัดด้วยกันซึ่งตรงกับวันที่ 19 พ.ย. 64 (ขึ้น 15 ค่ำเดือน 12) ที่เราเรียกกันว่าวันเพ็ญเดือน 12


 

ขอบคุณข้อมูลข่าวและภาพจาก
นายสาทร คชวงษ์
บรรณาธิการหนังสือพิมพ์เอกราชนิวส์
(086 - 168 1955)