เมื่อวันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2565 เวลา 09.00 น.
นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ตรวจเยี่ยมจุดฉีดวัคซีนโควิด-19 ในเด็กกลุ่มอายุ 5-11 ปี ที่มีโรคประจำตัวเสี่ยงต่อความรุนแรงของโรคและให้กำลังใจเด็ก ๆ ที่เข้ารับบริการฉีดวัคซีน-19 พร้อมด้วย นางสาวเอกรัตน์ นาคาคง นายศักดิ์ดา บรรดาศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง นายแพทย์ธนะวัฒน์ วงศ์ผัน นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง แพทย์หญิงสิริมา ทิพย์รัตน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการเเพทย์ และแพทย์หญิงรัตน์เกล้า สุมานิก รองผู้อำนวยการฝ่ายภารกิจปฐมภูมิ ณ บริเวณชั้นล่าง ตึกอำนวยการ โรงพยาบาลอ่างทอง อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง
พญ.สิริมา ทิพย์รัตน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ กล่าวว่า ในสัปดาห์นี้ มีเด็กลงทะเบียนรับวัคซีน จำนวน 1,070 คน และสัปดาห์หน้าจะเป็นกลุ่มเด็กทั่วไป ซึ่งการฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน สามารถลดการแพร่ระบาด ลดความรุนแรงของอาการและลดการเสียชีวิตได้ ดังนั้น วัคซีนจึงถือเป็นเครื่องมือสำคัญอย่างหนึ่งที่จะช่วยควบคุมการระบาดของโรค เพื่อคนที่เรารักและคนที่อยู่รอบข้าง อยากให้ทุกคนหันมาใส่ใจในการฉีดวัคซีนกันมากขึ้น เพื่อทำให้เมืองอ่างทองสู้กับโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และสำหรับบรรยากาศการฉีดวัคซีนในวันนี้มีผู้ปกครองที่สมัครใจพาเด็ก ๆ มารับวัคซีนที่โรงพยาบาลอ่างทอง ตั้งแต่เช้า ภายใต้ความดูแลของกุมารแพทย์ ซึ่งได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจแก่เด็กและผู้ปกครองเพื่อสร้างความผ่อนคลาย โดยจังหวัดอ่างทองมีนักเรียนอายุ 5-11 ปีที่ผู้ปกครองมีความประสงค์รับวัคซีน ทั้งหมด 7 อำเภอ รวมทั้งสิ้น จำนวน 10,550 คน คิดเป็นร้อยละ 55.67 เริ่มการฉีดวัคซีนให้กับเด็กกลุ่มเสี่ยงที่มีโรคประจำตัวหรือเป็นกลุ่มโรคที่กุมารแพทย์พิจารณา 7 กลุ่มโรค ประกอบด้วย 1.โรคอ้วน 2.โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง 3.โรคหัวใจและหลอดเลือด 4.ไตวายเรื้อรัง 5.มะเร็งและภูมิคุ้มกันต่ำ 6.โรคเบาหวาน 7.โรคพันธุกรรมทั้งกลุ่มอาการดาวน์ เด็กที่มีภาวะบกพร่องทางระบบประสาทรุนแรง และเด็กที่มีพัฒนาการช้า เนื่องจากหากได้รับเชื้อโควิด-19 มีโอกาสที่จะมีอาการรุนแรงสูง
ทั้งนี้ สูตรวัคซีนที่เลือกใช้ในกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี จะเป็นวัคซีนไฟเซอร์ฝาสีส้มในขนาด 10 ไมโครกรัม (1 ใน 3 ของขนาดที่ฉีดในกลุ่มผู้ใหญ่) ซึ่งเข็มที่ 1 และ 2 จะต้องมีระยะเวลาห่างกัน 3-12 สัปดาห์ ถือเป็นสูตรที่ต่างประเทศมีการจัดทำผลวิจัยและการเปรียบเทียบกับกลุ่มเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป พบว่า การฉีดวัคซีนสูตรฝาสีส้มมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงน้อยกว่าเด็กในกลุ่มอายุ 12 ปีขึ้นไป ช่วยลดความรุนแรงของโรคและสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในกลุ่มเด็กได้เป็นอย่างดี โดยรัฐบาลได้จัดเตรียมแผนบริการวัคซีนโควิด-19 จำนวน 120 ล้านโดส ของประเทศไทย ในปี 2565 ไว้พร้อมแล้ว จะมีวัคซีน Pfizer จำนวน 10 ล้านโดส สำหรับกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี เป้าหมาย 5 ล้านคนทั่วประเทศ ซึ่งการฉีดวัคซีนให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ต้องเป็นไปตามความสมัครใจของเด็กและผู้ปกครองต้องให้การยินยอม ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ รัฐบาลได้ให้ความสำคัญในการดูแลความปลอดภัยด้านสุขภาพคนไทยทุกคนเช่นเดียวกัน
ภาพ ... สำนักงานข่าวท้องถิ่นจังหวัดอ่างทอง
เนื้อข่าว ... สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอ่างทอง