เมื่อวันอาทิตย์ที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 9.29 น.
ดร.ถวัลย์ เมืองช้าง ประธานกรรมการ บริษัท เอเชีย ไฟน์ อาร์ทจำกัด ผู้จัดสร้างลานอิสรภาพ ๑๐๙ ได้ประกอบพิธีบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และจัดพิธีเททองหล่อในส่วนข้อพระบาทองค์สมเด็จพระนเรศวรองค์ใหญ่ พร้อมยกพระบรมราชนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช อิริยาบถทรงพระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตงที่หล่อสำเร็จแล้วองค์แรก ขึ้นประดิษฐ์สถานบนแท่น ถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในหลวงรัชกาลที่ 10 โดยมี นายลำพูน และนางนิตยา กองศาสนะ บริษัท ทุ่งนุ้ยศิลาทอง จำกัด เป็นประธานในพิธี และมี นายศักดา บรรดาศักดิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ให้เกียรติร่วมในพิธี มีประชาชนผู้เลื่อมใสศรัทธา เข้าร่วมในพิธีกว่าพันคน
ดร.ถวัลย์ เมืองช้าง ได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า ที่ดินที่นำมาจัดสร้างนี้ชื่อ “ลานอิสรภาพ” พื้นที่ประมาณ 200 ไร่ โดยภาพรวม พื้นที่จะมีลักษณะคล้ายรูปช้างนั่งย่องยกงวงขึ้น อยู่ในเขตตำบลสายทอง อำเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง ตั้งใจจะสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชในพระอิริยาบถต่าง ๆ รวม 4 พระองค์ มาเกือบ 20 ปีแล้ว เพิ่งจะเริ่มเป็นจริงจังเมื่อ 6 ปีที่ผ่านมา
เพราะด้วยความศรัทธาองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชอย่างแรงกล้า ต้องการเทิดพระเกียรติใน ความมุ่งมานะ ความเสียสละ ความรักชาติ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช หรือที่ประชาชนทั่วไปเรียกว่า “พระองค์ดำ” กษัตริย์ผู้ทรงกอบกู้ อิสรภาพจากพม่าในการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่ 1 ทรงเป็นกษัตริย์นักรบที่มีความกล้าหาญ และชาญฉลาด ในยุทธวิธีการรบอย่างมากมายเกิน 100 จนนำพาไปสู่ชัยชนะและทำให้สยามประเทศได้รับเอกราช มีผืนแผ่นดินให้ลูกหลานได้อาศัยอยู่จวบจนวันนี้
โครงการจัดสร้าง พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีวัตถุประสงค์เพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้จัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
1. พระอิริยาบถทรงยืนหลั่งน้ำลงสู่แผ่นดินด้วยสุวรรณภิงคาร
ขนาดความสูง 109 เมตร มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท (ยังอยู่ในการประเมิน)
2. พระอิริยาบถทรงยืนหลั่งน้ำลงสู่แผ่นดินด้วยสุวรรณภิงคาร
ขนาดความสูง 15.50 เมตร มูลค่า 55 ล้านบาท
3. พระอิริยาบถทรงพระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตง
ขนาดความสูง 15.50 เมตร มูลค่า 65 ล้านบาท
4. พระอิริยาบถทรงพระแสงของ้าวกระทำยุทธหัตถี
ขนาดความสูง 15.50 เมตร มูลค่า 70 ล้านบาท
โดยแบบก่อสร้างจะคล้ายลานครี่งวงกลม มีสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในพระอิริยาบถทั้ง 3 ที่มีความสูง 15.50 เมตร อยู่ด้านหน้า และตรงกลางจะเป็น พระอิริยาบถทรงยืนหลั่งน้ำลงสู่แผ่นดินด้วยสุวรรณภิงคาร ขนาดความสูง 109 เมตร
ฤกษ์ในการประกอบพิธีวันนี้
เวลา 10.19 น. พิธีถวายเครื่องราชสักการะหน้าพระฉายาลักษณ์ รัชกาลที่ 10
เวลา 10.29 น. พระภิกษุสงฆ์เจริญพุทธมนตร์
เวลา 12.09 น. พิธีเททองหล่อในส่วนข้อพระบาท
เวลา 12.29 น. พิธียกพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อิริยาบถทรงพระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำ
สะโตงขึ้นประดิษฐ์สถาน ณ แท่นลานอิสรภาพ 109
สำหรับพระคุณเจ้าทั้ง 9 รูปที่นิมนต์มาร่วมสวดชัยมงคลคาถา ล้วนเป็นพระอาจารย์ที่คนอ่างทองเลื่อมใสศรัทธา ได้แก่ พระครูโสภิตกิจจานุกิจ วัดป่าโมกวรวิหาร, พระครูประโชติธรรมโฆสิต วัดพายทอง, พระครูสุวรรณกิจจารักษ์ วัดโบสถ์สายทอง, พระครูประภัสสรสีลคุณ วัดลาดเค้า, พระครูประกาศโพธิคุณ วัดโพธิ์ทูล, พระอธิการยุทธ ฐานธัมโม วัดกุญชร, พระสมุทรเสน่ห์ ปภสูสโร วัดโบสถ์สายทอง, พระวรายุทธ ชยววุฒโธ วัดพิจารณ์โสภณ และพระอนันต์ กิตติสัมปันโน วัดพิจารณ์โสภณ
ในพิธีวันนี้เป็นการพิธีเททองหล่อในส่วนข้อพระบาท เพื่อเตรียมสร้างพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวร มหาราช พระอิริยาบถทรงยืนหลั่งน้ำลงสู่แผ่นดินด้วยสุวรรณภิงคาร ขนาดความสูง 109 เมตร และพิธียกพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อิริยาบถทรงพระแสงปืนต้นข้ามแม่น้ำสะโตงขึ้น ขนาดความสูง 15.40 เมตรที่สร้างเสร็จพระองค์แรก ขึ้นประดิษฐ์สถานบนแท่นรองรับ
ที่ตั้งชื่อลานอิสรภาพ 109 เพราะเป็นโครงการก่อสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ขนาดความสูง 109 เมตร จากพระบาทถึงพระเศียร ลักษณะทรงหลั่งน้ำทักษิโณทก ประกาศอิสรภาพ หมายถึงความเป็นใหญ่ ความเป็นไทแก่ตัว การปกครองตนเอง ซึ่งองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระองค์ทรงประกาศความเป็นไทย ความเป็นใหญ่ ให้กับชาติบ้านเมืองและทรงกอบกู้เอกราชให้ชาติไทยมาเป็นเวลาช้านาน ให้เป็นสร้างอนุสาวรีย์ที่มีขนาดสูงที่สุดในประเทศไทย และอาจจะเป็นอนุสาวรีย์องค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทยและของโลก
ความหมายของเลข 9 ซึ่งเป็นเลขมหามงคลที่ทำให้ปวงชนชาวไทยได้รำลึกถึง พระบาทสมเด็จ พระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ 9) รำลึกถึงในสิ่งต่าง ๆ ที่พระองค์ทรงได้ทำให้กับประเทศไทย รำลึกถึงความเป็นพ่อหลวงของปวงชนชาวไทย และพระราชกรณียกิจอันเป็นประโยชน์มากมายที่ท่านทรงทำ และที่สำคัญในยุคที่ประชาชนชาวไทยได้เกิดมาอยู่ในแผ่นดินของพระองค์
ส่วนความหมายของเลข 10 ซึ่งถือเป็นอีก 1 ตัวเลขที่เป็นมหามงคลเช่นกัน หลังจากที่ปวงชนชาวไทยทั้งประเทศได้สูญเสียในหลวงรัชกาลที่ 9 เราจึงได้มีพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูร ขึ้นปกครองประเทศ ทำให้ปวงชนชาวไทยรู้สึกมีความมั่นคงในการดำเนินชีวิต และอบอุ่นใจที่มีพระมหากษัตริย์ปกครองประเทศ และสานต่อคำสอนของในหลวงรัชกาลที่ 9 ต่อไป
จึงถือได้ว่าตัวเลขมหามงคลทั้ง 3 เลขนี้ เป็นตัวเลขที่มีความหมายที่ยิ่งใหญ่ และมีความเหมาะสมที่สุด ที่พวกเราเลือกใช้เป็น ความสูงในการจัดสร้างอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ลานอิสรภาพ โดยในวันที่ 9 เมษายน พ.ศ.2565 เวลา 16.32 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงวางศิลาฤกษ์แท่นประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช และทรงหล่อพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (ส่วนพระเศียร) ในพระอิริยาบถต่าง ๆ
ดร.ถวัลย์ เมืองช้าง ประธานบริหาร ผู้สร้างลานอิสรภาพ กล่าวทิ้งท้ายในงานว่า คาดว่าในวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นวันกองทัพไทย ก็จะทำพิธีหล่อพระอนุสารีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในพระอิริยาบถทรงพระแสงของ้าวกระทำยุทธหัตถี ขนาดความสูง 15.40 เมตร มูลค่า 70 ล้านบาท อีกองค์ และในวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2566 ก็จะทำพิธีหล่อพระอนุสารีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในพระอิริยาบถทรงยืนหลั่งน้ำลงสู่แผ่นดินด้วยสุวรรณภิงคาร ขนาดความสูง 15.40 เมตร มูลค่า 55 ล้านบาท ตามลำดับ หลังจากนั้น ก็ใช้เวลาในการตกแต่ง และจัดเตรียมการเพื่อจัดสร้างพระอนุสารีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ในพระอิริยาบถทรงยืนหลั่งน้ำลงสู่แผ่นดินด้วยสุวรรณภิงคาร ขนาดความสูง 109 เมตร ต่อไป
ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับจากโครงการนี้ ในส่วนของพระบรมราชานุสาวรีย์สามารถใช้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ และในส่วนของลานอิสรภาพ 109 ใช้เป็นลานจัดกิจกรรมของภาครัฐและเอกชนเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจสำหรับประชาชนทั่วไปเป็นแหล่งสร้างรายได้จากการค้าขายสินค้าชุมชนโดยจะไม่มีการเก็บค่าเช่าสถานที่สำหรับคนในท้องถิ่นที่นำสินค้ามาจำหน่ายเพียงแต่เก็บค่าบริการสาธารณูปโภคค่าน้ำค่าไฟตามจริงเท่านั้น
ข่าวและภาพโดย
สำนักงานข่าวท้องถิ่นจังหวัดอ่างทอง (AngthongNews)
080 - 549 8787