เมื่อวันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม 2568 เวลา 19.00 น.
ณ โดมอเนกประสงค์นิภาคุณากร วิทยาลัยนาฏศิลปอ่างทอง อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง
นายทัศนัย สุธาพจน์ (รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง) ประธานในพิธี ได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์ที่สำคัญในการผลักดัน "มนต์เสน่ห์ลิเกอ่างทอง" ให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล โดยตั้งเป้าหมายให้อ่างทองกลายเป็น "เมืองหลวงแห่งลิเกไทย" และพัฒนาสู่การเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ (Learning City) ด้านลิเกและการทำกลอง ควบคู่ไปกับ "หมู่บ้านทำกลองเอกราช" ภายในปี พ.ศ. 2570 เพื่อสร้างรากฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจากต้นทุนทางวัฒนธรรม
จังหวัดอ่างทองได้วางยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนลิเกในทุกมิติ ทั้งการจัดทำฐานข้อมูล, จัดตั้งชมรมลิเกโดยปราชญ์ลิเกชั้นครู, และสร้างหลักสูตร "มนต์เสน่ห์ลิเกอ่างทอง" เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้อย่างเป็นระบบ โดยมีโมเดล "ลิเก 3 วัย" (วัยเด็ก, วัยรุ่น, วัยดึก) ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าจังหวัดอ่างทองกำลังเดินมาถูกทาง
สำหรับไฮไลท์ของงาน คือการแสดงลิเกเรื่อง "โอรสไร้บัลลังก์" โดยนักศึกษาวิทยาลัยนาฏศิลปอ่างทอง ที่ได้แสดงความสามารถออกมาอย่างเต็มเปี่ยม ทั้งลีลาการร่ายรำและพลังเสียงที่สะกดผู้ชม ถือเป็นการจุดประกายความหวังและแสดงให้เห็นถึงอนาคตที่สดใสของวงการลิเกไทย ผู้ที่สนใจสนับสนุนและติดต่อการแสดงของคณะลิเกวัยรุ่น สามารถติดต่อได้โดยตรงที่วิทยาลัยนาฏศิลปอ่างทอง
นายทัศนัย สุธาพจน์ (รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง) เป็นประธานเปิดการแสดง "ลิเกวัยรุ่น" โดย นักเรียน นักศึกษษ วิทยาลัยนาฎศิลป์ อ่างทอง บรรยากาศภายในคึกคักเป็นพิเศษ ท่ามกลางเสียงปรบมือและกำลังใจจากแฟนคลับลิเกที่มารวมตัวกันอย่างคับคั่ง เพื่อชมการแสดงของคณะ "ลิเกวัยรุ่น" ในงาน "สืบสานตำนานนาฏดนตรี" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม เสริมสร้าง Soft Power ไทยอย่างยั่งยืน
นายทัศนัย สุธาพจน์ (รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง) ประธานในพิธี ได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์ที่สำคัญในการผลักดัน "มนต์เสน่ห์ลิเกอ่างทอง" ให้เป็นที่รู้จักในระดับสากล โดยตั้งเป้าหมายให้อ่างทองกลายเป็น "เมืองหลวงแห่งลิเกไทย" และพัฒนาสู่การเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ (Learning City) ด้านลิเกและการทำกลอง ควบคู่ไปกับ "หมู่บ้านทำกลองเอกราช" ภายในปี พ.ศ. 2570 เพื่อสร้างรากฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจากต้นทุนทางวัฒนธรรม
จังหวัดอ่างทองได้วางยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนลิเกในทุกมิติ ทั้งการจัดทำฐานข้อมูล, จัดตั้งชมรมลิเกโดยปราชญ์ลิเกชั้นครู, และสร้างหลักสูตร "มนต์เสน่ห์ลิเกอ่างทอง" เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้อย่างเป็นระบบ โดยมีโมเดล "ลิเก 3 วัย" (วัยเด็ก, วัยรุ่น, วัยดึก) ที่ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าจังหวัดอ่างทองกำลังเดินมาถูกทาง
สำหรับไฮไลท์ของงาน คือการแสดงลิเกเรื่อง "โอรสไร้บัลลังก์" โดยนักศึกษาวิทยาลัยนาฏศิลปอ่างทอง ที่ได้แสดงความสามารถออกมาอย่างเต็มเปี่ยม ทั้งลีลาการร่ายรำและพลังเสียงที่สะกดผู้ชม ถือเป็นการจุดประกายความหวังและแสดงให้เห็นถึงอนาคตที่สดใสของวงการลิเกไทย ผู้ที่สนใจสนับสนุนและติดต่อการแสดงของคณะลิเกวัยรุ่น สามารถติดต่อได้โดยตรงที่วิทยาลัยนาฏศิลปอ่างทอง
ขอขอบคุณเนื้อข่าว
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดอ่างทอง
ภาพข่าว
สำนักงานข่าวท้องถิ่นจังหวัดอ่างทอง
(AngthongNews) 080 - 549 8787