นายณรงค์พร ดูดดื่ม ผู้อำนวยการ สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอ่างทอง ได้ชี้แจงว่า เนื่องจากจังหวัดอ่างทอง เป็นพื้นที่เหมาะแก่การทำเกษตร แต่ก็ประสบกับปัญหาขาดแคลนน้ำ โดยเฉพาะน้ำเพื่อการเกษตรในหลายพื้นที่ การจะใช้น้ำบาดาลหรือน้ำใต้ดินจึงมีความสำคัญ เพราะเป็นทางออกหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อน กฎหมายกำหนดให้น้ำใต้ดินที่อยู่ลึกจากผิวดินเกินกว่า 15 เมตรเป็นน้ำบาดาล
โดยปัจจุบันนี้ทั้งจังหวัดอ่างทองรวม 7 อำเภอ มีการขอรับใบอนุญาตใช้น้ำบาดาล ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 รวม 628 บ่อแยกเป็นบ่อน้ำบาดาลเพื่ออุปโภคหรือบริโภค 252 บ่อ เพื่อธุรกิจ 140 บ่อ และเพื่อเกษตรกรรม 236 บ่อ โดยเป็นพื้นที่อำเภอเมืองมากที่สุดถึง 160 บ่อ รองมาคืออำเภอวิเศษชัยชาญ แสวงหา โพธิ์ทอง ไชโย ป่าโมก และสามโก้ ตามลำดับ ประชาชนที่ประสงค์จะเจาะน้ำบาดาลหรือใช้น้ำบาดาลในกิจการหนึ่งใด ต้องยื่นคำขอรับใบอนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอ่างทองเป็นหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรง
สำหรับผู้ที่ต้องการจะขอเจาะ หรือใช้น้ำบาดาลในเขตพื้นที่จังหวัดอ่างทอง จะต้องยื่นคำขอเจาะหรือใช้น้ำบาดาลและเอกสารประกอบคำขอให้ครบถ้วน พร้อมชำระค่าคำขอ 10 บาท และเมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสาร ผ่านการพิจารณาแล้ว จะต้องมายื่นชำระค่าธรรมเนียมตามขนาดของท่อที่จะใช้ดังนี้
1. ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเจาะน้ำบาดาลจะมีอายุ 1 ปี
- ใบอนุญาตเจาะน้ำบาดาลขนาดท่อน้อยกว่า 4 นิ้วค่าธรรมเนียม 100 บาท
- ใบอนุญาตเจาะน้ำบาดาลขนาดท่อตั้งแต่ 4 นิ้วแต่น้อยกว่า 8 นิ้วค่าธรรมเนียม 500 บาท
- ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเจาะน้ำบาดาลขนาดท่อตั้งแต่ 8 นิ้วขึ้นไปค่าธรรมเนียม 1,000 บาท
2. อัตราค่าธรรมเนียมใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลจะมีอายุ 5 ปี
- ใบอนุญาตใช้น้ำบาดาลขนาดท่อน้อยกว่า 4 นิ้วค่าธรรมเนียม 100 บาท
- ใบอนุญาตเจาะน้ำบาดาลขนาดท่อตั้งแต่ 4 นิ้วแต่น้อยกว่า 8 นิ้วค่าธรรมเนียม 500 บาท
- ใบอนุญาตเจาะน้ำบาดาลขนาดท่อตั้งแต่ 8 นิ้วขึ้นไปค่าธรรมเนียม 1,000 บาท
โดยต้องใช้ทีมช่างเจาะที่มีหนังสือรับรองจากกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ว่าเป็นช่างเจาะที่ได้มาตรฐาน
แร่ธาตุที่สำคัญ และเป็นประโยชน์กับร่างกายที่พบในน้ำบาดาล คือ Na (โซเดียม) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมสารอาหาร , Ca (แคลเซียม) ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนและมะเร็งลำไส้ใหญ่ , F (ฟูลออไลน์) ช่วยยับยั้งการผุของผิวเคลือบฟัน , Mg (แมกนีเซียม) ช่วยให้กล้ามเนื้อทำงานได้อย่างปกติ , K (โพแทสเซียม) ช่วยในการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ และ Fe (เหล็ก) ช่วยเสริมสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดงและป้องกันโรคโลหิตจาง
ผู้อำนวยการ สนง.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอ่างทอง กล่าวถึง วิธีการอนุรักษ์น้ำบาดาล การป้องกันคุณภาพของน้ำบาดาล สามารถทำได้โดยรักษาป่าไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่ต้นน้ำ ชะลอการไหลของน้ำ และช่วยเพิ่มปริมาณน้ำใต้ดิน ใช้น้ำบาดาลอย่างประหยัดเท่าที่จำเป็น เพื่อจะได้มีน้ำใช้อย่างยั่งยืน ระวังการฝังกลบขยะบนพื้นดิน หรือการทิ้งสารเคมีลงสู่แม่น้ำลำคลอง- ปฏิบัติตามมาตรการทางกฎหมายเพื่อป้องกันการลักลอบเจาะน้ำบาดาลขึ้นมาใช้อย่างไม่ถูกต้อง “ต้องการเจาะบ่อ ใช้น้ำบาดาล ในเขตพื้นที่จังหวัดอ่างทอง ต้องขอรับใบอนุญาตให้ถูกต้องจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอ่างทอง”
ภาพและข้อมูลโดย